7 วิธี ขับขี่ปลอดภัย ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ!!

7 วิธีปลอดภัย ขับขี่ยังไงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ!!   7 วิธีขับขี่ให้ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ สาเหตุหลักของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการใช้รถอันดับแรกสุดก็คือการขับรถเร็วเกินอัตรามากกว่าที่กฎหมายกำหนด ตามมาด้วยเมาแล้วขับและหลับใน มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นตัวแปรของการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความประมาทและการขาดความระมัดระวัง และจบลงด้วยการบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิต มาช่วยกันขับขี่ด้วยความระมัดระวังเพื่อลดการสูญเสีย ด้วย 7 วิธีขับเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ 1.คิด วิเคราะห์ แยกแยะ คาดการณ์ล่วงหน้า การคาดการณ์และประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า เป็นกระบวนการทำงานของสมอง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุขณะขับขี่ โดยอาศัยการมองให้ไกลเข้าไว้ การตัดสินใจที่ต้องรวดเร็วฉับไวและถูกต้อง การคาดการณ์และตอบสนองเพื่อหลีกหนีจากอุบัติเหตุ ยิ่งมีเวลาให้แก้ไขนานเท่าไร ก็ยิ่งปลอดภัยจากอุบัติเหตุมากเท่านั้น ควรทิ้งระยะให้ห่างจากรถคันหน้า หากเกิดการเบรกแบบฉุกเฉิน หรือเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด 2.หลีกเลี่ยงการใช้เบรกกะทันหัน การเบรกแบบฉุกเฉินเป็นสาเหตุที่นำพาไปสู่อุบัติเหตุสองทางคือ หยุดไม่ทันแล้วไปซัดท้ายคันข้างหน้าหรือหยุดทันแต่โดนซัดท้ายเต็มๆ เกิดขึ้นบ่อยครั้งเมื่อฝนตกในเขตเมืองจากการขับทิ้งระยะที่ไม่มากพอ สมาธิและสติที่ครบถ้วนรวมถึงการไม่ขับเร็วจะช่วยทำให้คุณไม่ต้องใช้เบรกหนักๆ 3.จุดอันตรายห้ามแซง การแซงรถช้าโดยปราศจากการมองเห็นที่ดี และการประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาด นำมาซึ่งอุบัติเหตุรุนแรงนับครั้งไม่ถ้วน สภาพเส้นทางก็มีส่วนทำให้การแซงมีอันตรายที่อาจตามมา 4.จุดบอดบริเวณทางแยก ทางอันตรายสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่สุดคือทางแยก ที่มีข่าวรถประสบอุบัติเหตุอันดับต้น ๆ เพราะรถมอเตอร์ไซค์เวลาออกจากซอย ทางแยก จะไม่ค่อยหยุดรถก่อนออกจากทางแยก ดังนั้น ไม่ควรแทรกรถที่กำลังเลี้ยวอยู่เพราะเป็นจุดบอดของผู้ขับขี่ ไม่หลบอยู่หลังหรือชิดรถมากเกินไป ในกรณีอยู่หน้าสุดไม่ควรพุ่งตัวออกไปทันทีที่ไฟเขียว เพราะรถฝ่าไฟแดงมีมากอาจโชคร้ายเจอพุ่งชนพอดี 5.ลดความเร็วก่อนถึงโค้ง เข้าช้า…

4 เทคนิคการเข้าโค้งของการขี่ Bigbike

4 เทคนิคการเข้าโค้งสำหรับชาวไบค์เกอร์ 4 เทคนิคการเข้าโค้งของการขี่ Bigbike 1.ลดความเร็ว (ทางตรง) 2.เบรก (ทางตรง) 3.ลดเกียร์ (ทางตรง) 4.คลายคลัตช์ ลดเกียร์ เปลี่ยนสายตามองด้านในของโค้งจนถึงทางออก การเข้าโค้งของรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่บรรดาเหล่าไบค์เกอร์หรือสิงห์นักบิดปรารถนาที่จะทำให้ได้อย่างดีและปลอดภัย หลายๆครั้งที่เห็นว่าการบรรดานักบิดที่ช่ำชองนั้นเข้าโค้งได้อย่างงดงาม มอเตอร์ไซค์เอียงกับทางโค้งได้แม้ว่าจะมาด้วยความเร็วขนาดไหนก็ตาม แต่หากว่าคุณต้องการเข้าโค้งอย่างมืออาชีพ ลองอ่านบทความนี้ก่อนรับรองว่า แม้คุณจะพึ่งเริ่มต้น แต่หากฝึกฝนบ่อยๆก็จะทำได้ดีอย่างแน่นอน การเข้าโค้งแบ่งได้ออกทั้งหมดเป็นสี่แบบ ดังนี้ Lean-out สำหรับการเข้าโค้งในลักษณะ Lean-out ผู้ที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์จำเป็นจะต้องถ่วงน้ำหนักของตัวคุณเองไปทางด้านนอกของโค้งมากกว่าด้านในโค้ง สำหรับตัวรถมอเตอร์ไซค์จะเอียงไปที่ด้านในของโค้งเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยมากแล้วสิงห์นักบิดมักจะใช้การเข้าโค้งลักษณะนี้ในมอเตอร์ไซค์วิบากในโค้งแคบ นั่นก็เพราะว่าผู้ที่ขับขี่จะคอนโทรลรถได้แม้ว่ารถไถลก็ตามที Lean-with สำหรับการเข้าโค้งแบบนี้ บรรดาสิงห์นักบิดจะต้องหลอมรวมตนเองเป็นส่วนหนึ่งของรถมอเตอร์ไซค์ โดยตัวรถมอเตอร์ไซค์จะเอียงไปในองศาที่เท่ากันกับผู้ขับขี่ โดยเท้าทั้งสองข้างของผู้ขับขี่จะอยู่ที่พักเท้า หัวเข่าหรือก็จะแนบชิดกับถังน้ำมัน ศีรษะของผู้ขับขี่ตั้งตรงอย่างเป็นธรรมชาติเพื่อช่วยให้สมดุลร่างกายของสิงห์นักบิดและตัวรถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างเหมาะสม สำหรับการเข้าโค้งแบบนี้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โค้งที่มาด้วยความเร็วปานกลาง และเหมาะสำหรับสิงห์นักบิดมือใหม่เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าคุณจะควบคุมรถได้อย่างง่ายดาย และแม้แต่การเปลี่ยนทิศทางรถก็ทำได้อย่างดีมีประสิทธิภาพจนคุณต้องประทับใจ Lean-in สำหรับการขับขี่มอเตอร์ไซค์เข้าโค้งแบบนี้ สิงห์นักบิดจะต้องถ่วงน้ำหนักของตนเองไปทางด้านในโค้ง โดยลำตัวของผู้ขับขี่จะเอียงมากกว่าตัวรถมอเตอร์ไซค์สักเล็กน้อย ซึ่งการเข้าโค้งในลักษณะนี้จะเหมาะสม กับการขับขี่มอเตอร์ไซค์มายังโค้งด้วยความเร็วสูง และต้องการความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ข้อเสียของการเข้าโค้งแบบ Lean-out คือผู้ขับขี่จะคอนโทรลรถได้น้อยกว่า Lean-with Hang-on…

5 พฤติกรรม การขับขี่บิ๊กไบค์ที่ไบค์เกอร์หลายคนเข้าใจผิด!

5 พฤติกรรม การขับขี่บิ๊กไบค์ที่ไบค์เกอร์หลายคนเข้าใจผิด!!     5 พฤติกรรม การขับขี่บิ๊กไบค์ที่ไบค์เกอร์หลายคนเข้าใจผิด มันมีข้อเสียอย่างไร มาทำความเข้าใจใหม่กัน เมื่อพูดถึงรถบิ๊กไบค์สมัยนี้ ถือว่าได้กระแสความนิยมที่ฟีเวอร์ที่สุดแห่งยุคเลยก็ว่าได้ แต่ถ้ามองในมุมกลับอีกด้าน ที่จะบอกได้ว่าเป็นข้อเสียหรือข้อบกพร่องที่มาพร้อมกับกระแสอันลุกฮือก็ดี ถ้าจะพูดถึง 5 พฤติกรรมหลักในการขี่บิ๊กไบค์ ที่ไบค์เกอร์หลาย ๆ คนมักเข้าใจผิด และพฤติกรรมที่ผิด ๆ เหล่านี้มีผลเสียอย่างไรกับการใช้รถคู่ใจของคุณบ้าง เราจะมาทำความเข้าใจในแต่ละพฤติกรรมกันใหม่ 1.ชอบกำคลัทช์ทุกครั้งเมื่อผ่อนคันเร่ง เบรก หรือเข้าโค้ง การผ่อนคันเร่งแล้วกำคลัทช์แช่และปล่อยรถให้ไหลไป ข้อเสียคือ รถจะไม่มีแรงฉุดของเครื่องยนต์เลย หรือที่เรารู้สึกว่าเมื่อยกคันเร่งแล้วกำคลัทช์ รถมันจะไหลไปเรื่อย ๆ แล้วลองคิดดูเล่น ๆ ว่าเมื่อรถไหลไปเรื่อย ๆ โดยที่ความเร็วลดลงอย่างช้า ๆ ถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นข้างหน้าแล้วต้องเบรกอย่างกระทันหัน หรือต้องใช้เบรกเพื่อเข้าโค้ง ขอบอกเลยว่ามีเปอร์เซ็นต์น้อยมากที่จะสามารถหยุดรถได้อย่างแม่นยำ เพราะฉะนั้นการใช้คลัทช์ แนะนำให้ใช้เพียงตอนออกตัว เปลี่ยนเกียร์ หรือจอดรถเท่านั้น 2.ใช้เกียร์สูงในความเร็วต่ำ การใช้เกียร์สูงในความเร็วต่ำ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมการใช้รถบิ๊กไบค์ที่ผิด แต่อาจไม่รุนแรงมากนัก และที่ว่าผิดก็คือรถบิ๊กไบค์เป็นรถที่มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะและมีพละกำลังเครื่องยนต์ที่สูง เมื่อใช้เกียร์สูงในความเร็วต่ำ จะเกิดความไม่สัมพันธ์ระหว่างความเร็วและอัตราทดเกียร์ รวมไปถึงการแบกรับน้ำหนักของเครื่องยนต์ที่มีต่อตัวรถและตัวผู้ขี่ จึงทำให้รถมีอาการกระตุกได้โดยง่าย…