การขับซอกแซกตอนที่รถติดและต้องใช้ความเร็วต่ำ คือสิ่งที่ยากที่สุดอย่างหนึ่งของการขับขี่มอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ที่มีน้ำหนักมาก มีแฮนบาร์ที่กว้าง ต้องคอยดูคอยหลบกระจกรถยนต์ทั้งสองข้าง ยิ่งถ้าเหลือช่องแคบๆนี่แทบหมดอนาคต ต้องหยุดรอไปพร้อมรถยนต์เลย ไหนจะเรื่องตาและมือต้องทำงานประสานกันได้อย่างดีช่วงชิงจังหวะได้อย่างทันท่วงที ต้องใช้สมาธิ และการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม
สำหรับทริคนี้จะช่วยให้คุณทรงตัวได้ดีขึ้น โดยให้เบรคหลัง มันจะช่วยให้คุณเร่งความเร็วขึ้นได้อย่างนุ่มนวล และพร้อมที่จะเบรคเพื่อหยุดรถได้ในทันทีหากจำเป็น วิธีการก็คือ กำคลัตช์แล้วปล่อยให้รถไหลไปตามแรง ใช้ปลายเท้าแตะเบรคเบาๆให้เกิดแรงหน่วงพอประมาณ อย่ากระแทกเบรคหรือเหยียบเบรคแรงๆ
การใช้เบรคหน้าอย่างกระทันหันในขณะเร่งความเร็วหรือกำลังออกตัวจะทำให้เกิดอาการกระตุก หรือกระแทกเบรค บางครั้งคุณอาจรู้สึกว่ามันช่วยให้ทรงตัวซ้ายขวาได้ดีในตอนที่ต้องเร่งและชะลอความเร็ว แต่มันจะขาดความสมดุลหน้าหลัง โดยน้ำหนักจะกดลงไปข้างหน้าแล้วเด้งกลับมาข้างหน้าทำให้ขาดความนุ่มนวล แต่มันจะช่วยไม่ให้โยกเยกหรือเอียงซ้ายทีขวาทีในตอนที่ต้องซอกแซกโดยใช้ความเร็วที่ต่ำมาก
1. บิดคันเร่งช่วยให้ลดเกียร์ลงได้อย่างนุ่มนวล
การลดเกียร์ลงและปล่อยคลัตช์อย่างรวดเร็วจะทำให้การทำงานของเครื่องยนต์สะดุดลงชั่วคราวเป็นการลดความเร็วที่ล้อหลัง แต่ข้อจำกัดก็คือ หากคุณต้องเลี้ยวหักมุม หรือเข้าโค้ง คุณจำเป็นต้องลดความเร็วให้ต่ำพอแล้วถึงจะเลี้ยวได้
สำหรับทริคนี้เคล็ดลับจะอยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างรอบเครื่องยนต์กับระดับเกียร์ เร่งเครื่องให้เหมาะสมกับความเร็วจะทำให้เครื่องยนต์ไม่สะดุดหรือชะลอตัวอย่างกระทันหัน
บางครั้งมันพูดง่ายแต่ทำยาก มันขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา และความรู้สึก วิธีการก็คือ หลังจากคุณกำคลัตช์และลดเกียร์ลง ให้คุณใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางมือขวากำเบรค แล้วใช้นิ้้วอื่นๆ บิดคันเร่ง การใช้เกียร์ต่ำจะเป็นการชะลอเครื่องยนต์ไปในตัวอยู่แล้ว สิ่งที่คุณต้องทำก็คือปล่อยคลัตช์ให้ได้จังหวะเหมาะสมกับเกียร์ และกำเบรคให้ได้จังหวะกับการบิดคันเร่ง อย่าลืมทำความคุ้นเคยกับแรงบิดและกำลังของเครื่องยนต์ เพราะทั้งสองสิ่งนี้จะต้องสัมพันธ์กัน แล้วคุณจะขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล คล่องตัว
2. ใช้เบรคเพื่อความเร็วและการเข้าโค้งอย่างปลอดภัย
ไม่ได้หมายความว่าให้คุณเข้าโค้งโดยใช้ความเร็วสูงๆ แล้วไปเบรคหัวทิ่มเอาในโค้ง แต่ให้คุณใช้ความเร็วที่เหมาะสม ประกอบกับการกำเบรคเบาๆเป็นระยะเพื่อประคองไม่ให้หลุดโค้ง การใช้เบรคหน้าจะทำให้เกิดแรงกดลงไปที่โช้คและยางหน้าและน้ำหนักถูกถ่ายโอนไปยังล้อหน้า เกิดการปัดท้ายส่ายองศาออกไปทางขอบโค้งด้านนอก ช่วยในเรื่องการคุมทิศทาง และไม่สูญเสียความเร็วมาก และเมื่อถึงจุดAPEX(จุดที่โค้งที่สุดนับจากจุดเข้าโค้งไปจนถึงจุดที่ออกจากโค้ง)ให้คุณเร่งเครื่องต่อไป
แต่อย่างไรก็ตามคุณต้องใช้ทริคนี้อย่างระมัดระวัง ทั้งเรื่องความดัน และการยึดเกาะของยาง การยุบตัวของโช็ค และความเร็วที่เหมาะสม แนะนำให้ฝึกทริคน้ในสนามฝึกซ้อม หรือในที่ ที่ปลอดภัยได้มาตรฐานไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่มีรถคันอื่นอยู่ใกล้ๆ ไม่มีสิ่งกีดขวาง มีทัศนวิสัยที่ดี เพราะหากผิดพลาดนั่นอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
3. จะรู้ได้ไงว่าโค้งนี้มันกว้างหรือแคบ
ในโค้งที่มีอะไรมาบดบังทัศนวิสัย ไม่มีป้ายบอกว่าเป็นโค้งแบบไหน ให้คุณมองไปที่สุดปลายโค้ง หากระยะห่างจากที่สุดปลายโค้งจุดที่คุณอยู่คงที่ โค้งนี้จะเป็นโค้งที่รัศมีคงที่ หากมองไปแล้วที่สุดปลายโค้งมันหุบเข้ามายังหาคุณ โค้งนี้จะเป็นโค้งที่แคบ แต่ถ้ามองดูแล้วมันขยายออกไปมันจะเป็นโค้งที่กว้าง และคุณสามารถเร่งความเร็วได้
4. ขึ้นเกียร์โดยไม่กำคลัตช์
หมายเหตุไว้ก่อนเลยว่าให้ใช้เฉพาะการขึ้นเกียร์เท่านั้น ไม่ควรใช้ในขณะความเร็วคงที่ หรือกำลังชะลอความเร็ว ทริคนี้เป็นเรื่องของการขับขี่ให้นุ่มนวล เปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้น แต่จะทำให้มีผลต่อระบบคลัตช์เล็กน้อย
วิธีการก็คือให้คุณเร่งความเร็วขึ้นมาพอใกล้ถึงจุดที่ต้องการขึ้นเกียร์ ให้คุณผ่อนคันเร่งลงเล็กน้อย แล้วใช้ปลายเท้างัดคันเกียร์ขึ้นทันที พอรู้สึกว่าเกียร์เข้าที่แล้วค่อยเร่งเครื่อง
เมื่อคุณคล่องแล้ว ทริคนี้จะช่วยให้คุณใช้เวลาขึ้นเกียร์น้อยลง สูญเสียความเร็วน้อยลง แต่คุณก็ต้องใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับระดับความเร็วของคุณด้วย นอกจากนี้การขึ้นเกียร์จากเกียร์ 1 เป็นเกียร์ 2 แนะนำให้กำคลัตช์เพื่อมีความสม่ำเสมอในการออกต้ว
5. หักซ้ายเพื่อเลี้ยวขวา
เป็นการกระตุกแฮนด์นิดหน่อยไปยังด้านตรงข้ามกับที่ต้องการจะเลี้ยว เพื่อให้รถเอียงไปยังทิศทางที่ต้องการเล็กน้อย แล้วค่อยคืนไปยังทิศทางที่ต้องการ สมมติว่าคุณนั่งคล่อมอยู่บนรถของคุณ แล้วหันแฮนด์ไปทางซ้าย คุณคิดว่ามันจะล้มไปทางไหน แน่นอนมันจะเอียง หรือล้มไปทางขวา ในตอนนั้นล้อหน้าจะเป็นจุดที่ใช้ควบคุมทิศทาง
หากคุณต้องการที่จะนำทริคนี้มาใช้บนท้องถนน คุณจะต้องแน่ใจได้ว่าจะไม่มีสุมทุมพุ้มไม้มาบดบัง ไม่มีรถคันอื่น หรือสิ่งใดๆมากีดขวาง และคุณต้องฝึกฝนเรื่องการควบคุมรถและความเร็วมาอย่างดีพอ
ทริคนี้ การฝึกฝนเป็นเรื่องสำคัญ ลองหาลานโล่งๆ แล้วฝึกฝนโดยใช้ความเร็วประมาณ 40 ก.ม. ต่อ ช.ม. หันแฮนด์ไปทางซ้ายเล็กน้อย พอรถเริ่มเอียงขวา และไหลไปตามทิศทางที่ต้องการแล้ว ให้คุณคืนแฮนด์ไปทางขวา จนแฮนด์กลับมาตั้งตรงกับตัวรถ
6. มองไปยังที่ ที่คุณจะไป
สิ่งที่ต้องเจออยู่ทุกวันบนท้องถนนก็คือ โดนรถคันอื่นเบียด ปาด แซง ต้องเลี้ยวต้องหลบในที่แคบๆ หรือบางครั้งก็เจอถนนพังเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือมีสิ่งกีดขวาง ให้คุณมองไปยังช่องหรือทางที่คุณจะไป อย่ามองที่ขอบฟ้า อย่ามองที่รถคันอื่นหรือสิ่งกีดขวางต่างๆ เพราะเราจะกำหนดทิศทางได้โดยใช้สายตามองไป แล้วบังคับมอเตอร์ไซค์ให้ตามไป แต่คุณต้องมีสติตลอดเวลาและบังคับตัวเองให้ได้
7. ปกป้องความเป็นชายด้วยเข่าของคุณเอง
หมายถึงลูกป๋องแป๋งของคุณนั่นแหละ ปกติเวลาขี่มอเตอร์ไซค์เราสามารถถ่ายน้ำหนักลงไปที่มือทั้งสองข้างได้อยู่แล้ว แต่ในตอนที่ต้องเบรคกะทันหัน น้ำหนักที่ไหลมาอาจพาลูกป๋องแป๋งของคุณไปอัดเข้ากับถังน้ำมัน ซึ่งอาจกระทบกระเทือนความเป็นชายของคุณ ทางแก้ก็คือใช้เข่าของคุณหนีบที่ถังน้ำมัน การติดยางกันลื่นกันลอยข้างถังจะช่วยให้การหนีบกระชับยิ่งขึ้น
8. ใช้เบรคให้ถูกต้อง
การใช้เบรคหน้าเป็นการหยุดรถที่มีประสิทธิภาพสูง มีระยะเบรคที่สั้น แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถและประสบการณ์ของผู้ขับขี่ด้วย
ใช้แค่นิ้วชี้และนิ้วกลางกำเบรค ส่วนที่เหลือกำรอบคันเร่ง
ในช่วงที่คุณอาจต้องใช้เบรคอย่างกะทันหัน เช่นการซอกแซกให้ช่วงรถติด หรือการจราจรชลอตัว ให้คุณวางนิ้วทั้งสองไว้ที่ก้านเบรค มันจะช่วยให้การตอบสนองรวดเร็ว และนุ่มนวล
ใช้ยางที่หนึบ ยึดเกาะกับพื้นถนนได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อให้คุณได้ใช้เบรคอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกครั้งที่คุณต้องใช้เบรค ให้คุณค่อยๆดึงก้านเบรคเข้ามา ควบคุมทิศทางและถ่ายน้ำหนักให้ยางหน้ากดลงที่พื้น เพียงครั้งเดียวก็สามารถเปลี่ยนทิศทางได้แล้ว อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องน้ำหนักรถด้วยละ
กำเบรคแรงขึ้นเรื่อยๆจนกว่าความเร็วลดลงมาอยู่ในระดับที่ต้องการ เมื่อล้อหลังส่าย หรือคุณรู้สึกว่าล้อหน้าเริ่มไถล ให้คุณรักษาน้ำหนักการกดเบรคไว้า หรือปล่อยเบรคจนได้ระดับที่คุณควบคุมได้
ความนุ่มนวลและต่อเนื่องเป็นปัจจัยสำคัญ การคุณกำเบรคสุดแรงมันอาจจะทำให้คุณล้มหัวทิ่มได้
9. มันอยู่ที่คุณ…
ท่อที่ดังกระหึ่ม โครเมี่ยมสีฉูดฉาด ยางลวดลายสวยงาม หรือสีเพ้นท์ต่างๆ ไม่ได้ทำให้คุณขับได้เร็วขึ้น คล่องแคล่วขึ้น หรือปลอดภัยขึ้น แต่การฝึกฝนจะช่วยคุณเอง คุณควรทุ่มเทเงินทอง และเวลาไปกับการพัฒนาเทคนิค ศึกษาทริคหรือคำแนะนำต่างๆในการขับขี่ เมื่อเกิดเป็นทักษะส่วนตัว และได้ฝึกฝนจนช่ำชองแล้ว คุณค่อยหาของเท่ๆมาแต่งรถมอเตอร์ไซค์สุดที่รักของคุณ
สิ่งสำคัญในการขับขี่มอเตอร์ไซค์ ก็คือความปลอดภัย ทั้งของคุณเองและของผู้ที่ใช้ถนนร่วมกัน เราต้องเคารพสิทธิของผู้อื่นเช่นกัน ควรมีมารยาทในการขับขี่ ไม่ลักไก่ ไม่ปาดหน้ากระชั้นชิดหรือขับขึ้นบนทางเท้า เพื่อลดอุบัติเหตุ และช่วยให้เราทุกคนใช้ถนนร่วมกันได้อย่างมีความสุข