ขับบิ๊กไบค์ต้องสูงเท่าไหร่ ส่วนสูงจำเป็นไหม หากคุณจะขับบิ๊กไบค์
การเป็นเจ้าของหรือการขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์สักคัน คงเป็นความฝันของใครหลายคนที่ชีวิตหนึ่งอยากจะทำให้ได้ มันไม่สำคัญว่าคุณจะต้องเป็นชายหนุ่ม เพราะแม้แต่หญิงสาวก็สามารถมีความฝันนี้ได้ แน่นอนว่าหลายคนมีความฝันนี้แต่หลายคนก็มีความกังวลอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน เพราะการขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ อาจฟังดูยากสำหรับใครหลายคน อาจไม่แน่ใจเรื่องความสูงว่าขับบิ๊กไบค์ต้องสูงเท่าไหร่
ก่อนหาคำตอบว่า ขับบิ๊กไบค์ต้องสูงเท่าไหร่ มาดูกันก่อนว่าแบบไหนที่เรียกว่า บิ๊กไบค์
มอเตอร์ไซค์แบบที่เรียกว่า “รถบิ๊กไบค์” นั้น ไม่ได้วัดกันที่รูปลักษณ์ที่สูงใหญ่กว่ามอเตอร์ไซค์ปกติอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน เพราะมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์บางจำพวกอย่างพวกช็อปเปอร์ ก็มีความสูงจากพื้นไม่ถึงเมตร บางคนนั่ง วางเท้าบนพื้นเข่ายังงอได้อีกมาก แต่สิ่งที่จำแนกแยกประเภทว่าคันไหนใช่หรือไม่ใช่บิ๊กไบค์คือ ขนาดของเครื่องยนต์ หรือที่เราได้ยินคุ้นหูกันก็คือ “คันนี้กี่ซีซี ?” นั่นเอง
มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์จะเป็นรถที่มีขนาดซีซีสูง เมื่อก่อนอาจจะอยู่ที่ 1000 ซีซีขึ้นไป แต่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีของมอเตอร์ไซค์พัฒนาไปมาก รถบางคันมีซีซีแค่ 300 แต่ความแรงก็เทียบเท่ารถขนาด 1000 ซีซีสมัยก่อนได้แล้ว และถ้าพูดกันถึงเรื่องความสูง ต่อให้คุณสูงแค่ 150 ซม. คุณก็สามารถขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ได้ แต่อย่าเพิ่งดีใจแล้วรีบไปถอยบิ๊กไบค์มาขี่นะ! เพราะถึงข้อจำกัดจะไม่ใช่ความสูง แต่ก็มีสิ่งอื่นที่จำเป็นในการขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์มากกว่าส่วนสูงของผู้ขับขี่
1.ทักษะเรื่องการขับขี่
ก่อนอื่นเลยคุณต้องมีทักษะการขับมอเตอร์ไซค์ที่ดีมากก่อน เพราะน้ำหนักและความแรงของมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ มันจะพาคุณทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็ว การเร่งความเร็วให้ถึง 100 กิโลเมตร เกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องมีคือ “ทักษะ” ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยวทั้งในความเร็วสูงและการเลี้ยวที่ความเร็วต่ำที่คุณจะต้องมีสมดุลเพื่อไม่ให้น้ำหนักของรถทำให้คุณล้ม การหลบหลีกบนถนนในเมือง คุณอาจจะเคยเห็นว่านักขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์นั้นแซงรถขึ้นไป ปาดซ้ายปาดขวา ซึ่งนั่นไม่ใช่แค่ความเท่ห์ มันคือการฝึกฝนและประสบการณ์ และเป็นส่วนน้อยที่จะฝึกจนชำนาญก่อนแล้วค่อยลงถนนจริง มีตัวอย่างอีกมากที่ไม่คิดจะฝึกฝนทักษะก่อนไปลงถนนจริง เลยจำเป็นต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณควรจะทำก็คือการฝึกขับมอเตอร์ไซค์ให้ชำนาญด้วยรถมอเตอร์ไซค์ธรรมดา จากนั้นอาจจะไปลงคอร์สเรียนขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์เพิ่มเติมโดยเฉพาะได้
2.ร่างกายที่สมบูรณ์
จริงอยู่ว่าความสูงไม่มีความจำเป็นมากนักในการขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ แต่ความสมบูรณ์ของร่างกายมีความจำเป็นอย่างมาก คุณต้องไม่ป่วย สายตาต้องดี กล้ามเนื้อต้องมีความแข็งแรง เพราะไม่ได้มีแค่เรื่องน้ำหนักรถเท่านั้นที่คุณต้องเผชิญ
แต่การอยู่บนหลังของมอเตอร์ไซค์จำพวกนี้ คุณต้องตื่นตัวตลอดเวลา พร้อมที่จะแก้ไขสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เพราะถ้าเสียสมาธิเพียงนิดเดียว คุณอาจลงไปกลิ้งกับพื้นถนน หลุดโค้ง หรือสอยรถคันข้างหน้า คนขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ส่วนมากจะชอบออกทริปไกล ๆ ไปขับให้สนุกในทางยาว ๆ ซึ่งคุณจะต้องเผชิญกับลมแรง ๆ ที่ปะทะร่างกายคุณเป็นชั่วโมง ถ้าพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายไม่สามารถมีสมาธิอยู่ในเวลานานได้ คุณก็คงไปไม่ถึงฝัน
3.อุปกรณ์ความปลอดภัย
เวลาอยู่บนถนนใครที่เคยมองคนขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่ใส่ชุดเต็มสูบ ราวกับหลุดออกมาจากสนามแข่ง MotoGP แล้วนึกหมั่นไส้ ก็อยากให้คุณเปลี่ยนทัศนคติใหม่ เพราะสิ่งนั้นถูกต้องและมีความรับผิดชอบต่อตัวเอง มันไม่ใช่แค่ความเท่ห์ แต่การที่ไม่ใส่เครื่องป้องกัน มันจะเพิ่มโอกาสพิการหรือเสียชีวิตได้ หากเกิดอุบัติเหตบนท้องถนน
แม้แต่นักแข่งในสนามแข่งที่มีความชำนาญระดับสุดยอดบางคนก็ยังจบชีวิตได้ในสนามแข่ง ยิ่งเป็นบนถนนยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันเต็มไปด้วยอันตรายสำหรับคนขับมอเตอร์ไซค์ รถที่เปลี่ยนเลนกะทันหัน เสาไฟฟ้า หลุมท่อระบายน้ำ สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนกับดักที่คอยเล่นงานเหล่าไบค์เกอร์หรือคนที่ขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ทุกคน เพราะฉะนั้น หมวกกันน็อกไม่จำเป็นต้องแพง เกราะ กางเกง รองเท้าไม่จำเป็นต้องราคาสูง ขอให้ได้มาตรฐานและป้องกันชีวิตคุณได้ก็เพียงพอ และควรจะใส่ทุกครั้งที่มีการขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์
4.ความรับผิดชอบต่อสังคม
ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องที่จับต้องไม่ได้ และไม่มีมาตรวัดว่าอะไรคือความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ถ้าลองดูข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนน อุบัติเหตุเกี่ยวกับการขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์เริ่มมีเปอร์เซ็นต์การทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น การขับมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ที่น้ำหนักเกินร้อยกิโลวิ่งด้วยความเร็ว ไม่ว่าจะวิ่งไปชนอะไร ไม่ใช่แค่ผู้ขับขี่เท่านั้นที่สูญเสีย เพราะบางครั้งแม้คนที่ถูกชนก็สามารถเสียชีวิตได้ เหมือนการถูกชนด้วยกระสุนปืนใหญ่เลยทีเดียว ยิ่งคนเดินข้ามถนนที่ถูกบิ๊กไบค์ชน ไม่ต้องพูดถึง! ไม่ค่อยมีใครรอดชีวิตกับความรุนแรงขนาดนั้น
ความรับผิดชอบต่อสังคมคืออะไร มันคือการที่คุณต้องระลึกเสมอว่าคุณใช้ถนนร่วมกับผู้อื่นไม่ว่าคุณจะชำนาญแค่ไหน คุณไม่ควรขับเร็วเกินไป ถ้าอยากขับเร็ว อยากแบนโค้ง คุณควรไปหาเช่าสนามที่มีอยู่มากมายในประเทศนี้ ในเมื่อคุณแชร์ถนนกับผู้อื่น คุณควรอยู่ภายใต้กฎจราจร มันอาจจะไม่สนุกหรือเร้าใจในแบบที่หวัง แต่มันจะไม่มีใครเสียหายและเดือดร้อน
5.สภาพจิตที่ดี
ในต่างประเทศคนที่จะขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ได้จะต้องสอบใบอนุญาตโดยเฉพาะ และจะต้องมีการทดสอบสภาพจิตใจให้ผ่านเกณฑ์ เพราะการขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์บนถนนต้องการความรับผิดชอบสูง ในความเร็วสูงบนอานของรถบิ๊กไบค์เหล่านั้นมันจะเต็มไปด้วยความกดดัน พลาดนิดเดียวอาจล้มและทำให้คนอื่นเกิดอันตรายได้ อีกทั้งผู้ขับขี่จะต้องมีความสามารถในการควบคุมตัวเองไม่ให้ทำอะไรที่มันเกินความสามารถและเกินขอบเขตของกฎหมาย
จะเห็นได้ว่าในบ้านเราแค่มีเงินและอายุถึง ก็สามารถทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ได้ และผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากการขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ร้อยละ 89 คือวัยรุ่น เมื่อไม่มีการควบคุมและรถบิ๊กไบค์ก็ราคาถูกลงทุกวัน ดังนั้นตัวคุณเองจะต้องรับผิดชอบตัวเองให้ได้ด้วย
6.ประกันรถมอเตอร์ไซค์ (ประกันบิ๊กไบค์)
จากที่บอกไปแล้วว่าผู้ขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์จะต้องเต็มไปด้วยทักษะและความรับผิดชอบ เพราะบนถนนบ้านเราไม่ได้ออกแบบมาให้รถบิ๊กไบค์ออกมาซิ่งโดยเฉพาะ ความจริงก็ควรยอมรับไปเลยว่าไม่มีถนนเส้นไหนในเมืองไทยเลยที่ปลอดภัย ควรพึงระลึกว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และที่สำคัญ! อุบัติเหตุจากรถบิ๊กไบค์มันจะร้ายแรงกว่าอุบัติเหตุชนิดอื่นหลายเท่าอีกด้วย
อย่าได้ขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ลงถนนไปโดยไม่มีประกันเด็ดขาด ทำประกันบิ๊กไบค์ไว้หน่อย ถึงแม้คุณจะรวยล้นฟ้า แต่ไม่มีใครรับประกันได้ว่าคุณจะมีชีวิตรอดจากอุบัติเหตุมาจ่ายค่าเสียหายให้แก่คนอื่น ทำประกันไว้ให้ครอบคลุมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้